หน้าปก FAQ 7 ประเด็น ทำไมต้องเลือกชั้นวางสินค้า PN

FAQ : 7 ประเด็น ทำไมต้องเลือกชั้นวางสินค้า PN

ลูกค้าที่เข้ามาชมเว็บไซต์ PN Steel Product เมื่อเห็นผลงานของบริษัทเราแล้วสนใจทักไปถามแอดมิน หลาย ๆ ท่านอาจพบว่า

“ราคาชั้นวางสินค้า PN แพงกว่าเจ้าอื่น”

ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ? แน่นอนว่ามีบางท่านก็อาจจะได้คำตอบที่ไม่แน่ชัดเท่าไหร่นักว่าทำไมชั้นวางสินค้าของ PN ถึงแพงกว่า คอนเทนต์นี้ เราจะมาตอบคำถามในสิ่งที่หลาย ๆ ท่านสงสัย ซึ่งข้อมูล Reference ทั้งหมดเป็นข้อมูลโดยตรงจากผู้บริหารบริษัท พีเอ็น สตีล โปรดักส์ จำกัด ที่ทำงานคลุกคลีกับวงการเหล็กและชั้นวางสินค้ามาอย่างยาวนานค่ะ

นอกจากประเด็นเรื่องราคาที่แพงกว่าเจ้าอื่น ยังมีประเด็นอื่น ๆ ที่อาจช่วยในเรื่องการตัดสินใจของทุกคนได้ว่า

ทำไมต้องเลือก “ชั้นวางสินค้า PN

ทำความรู้จักกับชั้นวาง 4 แบบของ PN

ก่อนอื่น มาทำความความรู้จักกับชั้นวางสินค้าของ PN กันก่อน ซึ่งจะมี 4 แบบด้วยกัน ได้แก่

  1. เชลฟ์
  2. แร็ค
  3. แร็คครอบเชลฟ์
  4. แร็คอินดิเกรท
ประเภทชั้นวางสินค้า 4 แบบของ PN

ชั้นวาง 4 แบบของ PN

FAQ ประเด็นที่ 1. เชลฟ์หรือชั้นวางสินค้า

ถาม : 1.1) เชลฟ์ของ PN มีลักษณะอย่างไร?

ตอบ : เชลฟ์คือชั้นสำหรับวางสินค้าทั่วไป / ลักษณะเชลฟ์มาตรฐานของ PN จะเป็นชั้นวางสินค้าแบบเหล็กที่ประกอบไปด้วย เสา, แผ่นชั้น, แขนรับชั้น, และแผ่นหลัง

ส่วนประกอบของเชลฟ์หรือชั้นวางสินค้า

เชลฟ์และส่วนประกอบของเชลฟ์

ถาม : 1.2) โครงสร้างของเสาเชลฟ์ที่ PN ใช้ มีแบบไหนบ้าง?

ตอบ : จะมี 2 แบบ คือแบบเหล็กกล่องและแบบเหล็กพับ

  1. แบบเหล็กกล่อง ขนาดหน้าเสา 25×50 มม. และ 30×60 มม. รับน้ำหนักมากกว่า 25 กก.ต่อชั้น ความสูงเสาสูงสุด 240 ซม. และรับน้ำหนักได้ไม่มาก
  2. แบบเหล็กพับ ขนาดหน้าเสา 40×70 มม., 40×100 มม. และ 40×120 มม. สามารถรับน้ำหนัก 80 – 150 กก.ต่อชั้น ความสูงเสาสูงสุด 550 ซม. และรับน้ำหนักได้มาก

📝 โดยทาง PN ใช้ทั้ง 2 แบบ ขึ้นอยู่กับการรับน้ำหนักของลูกค้า

โครงสร้างของเสาเชลฟ์ เหล็กกล่อง VS เหล็กพับ

โครงสร้างของเสาเชลฟ์ เหล็กกล่อง VS เหล็กพับ

ถาม : 1.3) เชลฟ์ของ PN รับน้ำหนักได้กี่กิโลกรัมบ้าง?

ตอบ : มีตั้งแต่ 25 กก.ต่อชั้น ไปจนถึง 150 กก.ต่อชั้น โดยรุ่นมาตรฐานที่ PN ทำจะเป็นแบบ 25 – 50 กก.ต่อชั้น ส่วน 60 กก.ต่อชั้นขึ้นไปจะเป็นงานสั่งผลิต

📝 งานสั่งผลิตต้องรอประมาณ 30 – 45 วัน

การรับน้ำหนักของชั้นวางสินค้ามาตรฐาน VS ชั้นวางสินค้าสั่งผลิต

การรับน้ำหนักของเชลฟ์

ถาม : 1.4) แผ่นหลังของเชลฟ์ มีแบบไหนบ้าง? และแต่ละแบบมีจุดเด่นอย่างไร?

ตอบ : มี 4 แบบ ได้แก่ แบบหลังตาข่าย, หลังทึบ, หลังพันช์ชิ่ง และแผ่นไม้

  • จุดเด่นของแบบหลังตาข่าย ราคาถูกที่สุด เป็นที่นิยม
  • จุดเด่นของแบบหลังทึบ เรียบง่าย ทันสมัย
  • จุดเด่นของแบบหลังพันช์ชิ่ง ใช้เป็นแบบแขวนฮุกพันช์ชิ่งได้
  • จุดเด่นของแบบแผ่นไม้ ประยุกต์สำหรับโชว์สินค้าอื่น ๆ ได้

📝แผ่นหลังไม่ได้มีผลเรื่องการรับน้ำหนัก การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับความชอบของลูกค้า

แผ่นหลังชั้นวางสินค้า 4 แบบ

แผ่นหลังเชลฟ์ 4 แบบ

FAQ ประเด็นที่ 2. แร็คหรือชั้นสต็อกสินค้า

ถาม : 2.1) แร็คคืออะไร และแร็คของ PN มีลักษณะอย่างไร?

ตอบ : แร็คเป็นชั้นสำหรับสต็อกสินค้าในโกดัง รับน้ำหนักได้มากกว่าเชลฟ์ ซึ่งแร็คของ PN มีลักษณะที่ประกอบไปด้วย เสาแร็ค, บีม, คาน, กระดูก และแผ่นพื้น

ส่วนประกอบของแร็คหรือชั้นสต็อกสินค้า

แร็คและส่วนประกอบของแร็ค

ถาม : 2.2) เสาแร็คขนาดใหญ่ รับน้ำหนักเท่าไหร่? มีแบบไหนบ้าง? และ PN ใช้เสาแร็คแบบใด?

ตอบ : เสาแร็คขนาดใหญ่รับน้ำหนัก 1,000 – 10,000 กก.ต่อชั้น โดยจะมี 2 แบบ คือแบบเสาพับและเสารีด

  1. เสาพับ มีต้นแบบมาจากเยอรมัน เป็นแบบ 2 ต้นเชื่อมติดกัน มีความแข็งแรง มาตรฐานปกติทั่วไป ไม่ต้องตรวจสอบการคลายของน็อต ข้อเสียคืออะไหล่ชิ้นใหญ่ ทำให้ขนย้ายลำบาก
  2. เสารีด มีต้นแบบจากญี่ปุ่น น็อตจะต้องเป็นแบบรับแรงยึด แหวนรองจะต้องเป็นแบบสปริง น็อตตัวเมียต้องเป็นแบบกันคลาย ขนย้ายสะดวก ข้อเสียคือต้องตรวจสอบการคลายของน็อตทุก ๆ 1 ปี

📝 ทางพีเอ็นผลิตเสาแร็คเป็นแบบเสาพับ เพื่อลดความเสี่ยงการที่น็อตคลายตัวในระยะเวลาการใช้งาน

โครงสร้างของเสาแร็ค เสาพับ VS เสารีด

โครงสร้างของเสาแร็ค เสาพับ VS เสารีด

ถาม : 2.3) บีม / คานและกระดูก คืออะไร? มีแบบไหนบ้าง?

ตอบ : บีมเป็นเหล็กด้านหน้าของเสา มี 2 แบบ

  • 1. บีมวางพาเลท (ส่วนมากใช้กับรถ Forklift) มีลักษณะเป็นเหล็กกล่อง ไม่นิยมวางแผ่นไม้ รับน้ำหนัก 1,000 – 3,000 กก.ต่อชั้น
  • 2. บีมวางกล่องสินค้า (ส่วนมากใช้กับการให้คนเรียงสินค้า) รับน้ำหนัก 100 – 2,000 กก.ต่อชั้น
  • ส่วนคานและกระดูก จะมีลักษณะตามการใช้งานและการรับน้ำหนักของบีม
ลักษณะของบีมวางพาเลท VS บีมวางกล่อง

ลักษณะของบีมวางพาเลทและบีมวางกล่อง

ถาม : 2.4) แผ่นพื้นมีแบบไหนบ้าง? ของ PN ใช้แบบไหน? แตกต่างจากเจ้าอื่นอย่างไร?

ตอบ : แผ่นพื้น มี 4 แบบ ได้แก่ 1. พื้นเหล็ก 2. ไม้อัดยาง 3. ไม้ MDF 4. ไม้ปาติเกิล

  • 1. พื้นเหล็ก มีลักษณะเป็นแผ่นเหล็ก มีความคงทน แข็งแรง อายุการใช้งานมากกว่า 20 ปี แต่ข้อเสียคือบุบง่าย มีราคาแพง ไม่เหมาะสำหรับแร็คหน้าลึกและกว้าง
  • 2. พื้นไม้อัดยาง มีความแข็งแรง ทนต่อความชื้น ปลวกไม่กิน เหมาะกับงานสต็อก/คลังสินค้า อายุการใช้งานมากกว่า 20 ปี
  • 3. พื้นไม้ MDF ทำมาจากขี้เลื่อยบีบอัด เหมาะกับการวางสต็อก ข้อเสียคือความชื้นสามารถเข้าได้ตามรอยตัด อายุการใช้งานประมาณ 5 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม
  • 4. พื้นไม้ปาติเกิล ทำมาจากเศษไม้บีบอัด เหมาะกับโครงสร้างแนวตั้ง ข้อเสียคือความชื้นสามารถเข้าได้ตามรอยตัด อายุการใช้งานประมาณ 5 ปีขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม

📝 การเลือกแผ่นพื้น ไม่มีผลกับการรับน้ำหนัก ขึ้นอยู่กับลูกค้าเลือก เพราะราคาแตกต่างกันตามอายุการใช้งาน

แผ่นพื้น 4 แบบของแร็ค

แผ่นพื้น 4 แบบของแร็ค

FAQ ประเด็นที่ 3. แร็คครอบเชลฟ์

ถาม : 3.1) แร็คครอบเชลฟ์คืออะไร? แร็คครอบเชลฟ์ของ PN มีลักษณะอย่างไร?

ตอบ : แร็คครอบเชลฟ์ คือการนำแร็คและเชลฟ์มารวมอยู่ในโครงสร้างเดียวกัน ทำให้สามารถวางสินค้าและสต็อกสินค้าได้แบบสองต่อ โดยจะเลือกการรับน้ำหนัก ความสูง ความลึก แผ่นหลัง และแผ่นพื้น ตามความความต้องการของลูกค้าทั้งหมด

แร็คครอบเชลฟ์และส่วนประกอบ

แร็คครอบเชลฟ์และส่วนประกอบ

ถาม : 3.2) แร็คครอบเชลฟ์ของ PN แตกต่างจากเจ้าอื่นอย่างไร?

ตอบ : เนื่องจากฟังก์ชั่นพิเศษที่เราได้กล่าวไปในข้อ 3.2) จึงทำให้แร็คครอบเชลฟ์เป็นที่นิยมสำหรับลูกค้ามาก ๆ เพราะนอกจากจะวางสินค้า+สต็อกสินค้าได้ ยังประหยัดพื้นที่ และสามารถผลิตออกมาได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น แร็คครอบชั้นตะกร้า, แร็คครอบชั้นแกนโรล, แร็คครอบชั้นแขวนฮุก หรือแร็คครอบชั้นโชว์กระเบื้อง ซึ่งทั้งหมดนี้ PN สามารถออกแบบและผลิตให้ตอบโจทย์สำหรับร้านค้าทุกประเภทได้อีกด้วยค่ะ

(📃อ่านเรื่อง ⇒ แร็คครอบเชลฟ์คืออะไร? พร้อม 10 ตัวอย่างผลงานจริงจาก PN เพิ่มเติม)

FAQ ประเด็นที่ 4. แร็คอินดิเกรท

ถาม : 4.1) แร็คอินดิเกรท คืออะไร?

ตอบ : แร็คอินดิเกรท คือแร็คที่มีความคล้ายกับแร็คครอบเชลฟ์ แต่ต่างจากแร็คครอบเชลฟ์ตรงที่สามารถกำหนดความลึก ด้านซ้ายและด้านขวาให้ไม่เท่ากันได้

ตัวอย่างแร็คอินดิเกรท

ตัวอย่างแร็คอินดิเกรท

ถาม : 4.2) แร็คอินดิเกรท เหมาะกับร้านแบบไหน?

ตอบ : ส่วนมากร้านที่เลือกใช้แร็คอินดิเกรท คือกลุ่มร้านสุขภัณฑ์ / ชุดโชว์ประตู / โชว์หน้าต่างบานเลื่อน หรือการวางของหนักในด้านเดียวที่เกิน 150 กก.ต่อชั้น

FAQ ประเด็นที่ 5. คุณภาพเหล็กที่ทำให้ราคาสูง

ถาม : ทำไมชั้นวางสินค้า PN ถึงราคาสูงกว่าเจ้าอื่น?

ตอบ : เพราะคุณภาพของเหล็กที่นำมาใช้ในการผลิตชั้นวางสินค้าของ PN มีมาตรฐานที่ดีเยี่ยม อายุการใช้งาน 20 ปีขึ้นไป ซึ่งแตกต่างจากเหล็กทั่วไปที่อาจมีอายุการใช้งาน +- 5 ปี

  • 1. เป็นเหล็กรหัส SS 400 มีคุณสมบัติแข็ง เหนียว และยืดหยุ่นได้ / ***ในขณะที่เหล็กจีน (ทั่วไป) รหัสเหล็ก Q301 – 305 ซึ่งจะมีคุณสมบัติที่แข็งอย่างเดียว
  • 2. เมื่อมีการรับน้ำหนักเกินมาตรฐาน จะเกิดการแอ่น ทำให้ทางโรงงานแจ้งการรับน้ำหนักเป็นค่าสูงสุดแบบเผื่อค่า safety อีก 10% เช่น ผู้ขายจะแจ้งการรับน้ำหนัก 100 กก. แต่สินค้าจริงสามารถรับน้ำหนักได้ 110 กก. (สินค้าจริงรับน้ำหนักได้มากกว่าที่แจ้ง 10 กก.)

***ในขณะที่เหล็กจีน (ทั่วไป) เมื่อมีการรับน้ำหนักเกินมาตรฐาน เหล็กจะไม่เกิดการแอ่น แต่จะหักเลย และมักจะแจ้งการรับน้ำหนักที่เป็นค่าสูงสุด ไม่มีการเผื่อค่า safety ลูกค้าต้องคำนวณออก 20% เช่น ผู้ขายแจ้งการรับน้ำหนัก 100 กก. แต่สินค้าจริงสามารถรับน้ำหนักได้ 80 กก. (สินค้าจริงรับน้ำหนักได้น้อยกว่าที่แจ้ง 20 กก.)

  • 3. ฉะนั้นทำให้อายุการใช้งานของเหล็กของ PN ใช้งานได้ 20 ปีขึ้นไป / ***ในขณะที่เหล็กจีน (ทั่วไป) อายุการใช้งาน +- 5 ปี
  • 4. ซึ่งราคาเหล็กของไทยที่เราใช้ จะมีราคาที่สูงกว่าเหล็กจีน (ทั่วไป) กก.ละ 4-5 บาท เมื่อต้นทุนเหล็กมาแพง จึงทำให้ชั้นวางสินค้าของเราแพงกว่าเจ้าอื่นไปด้วย 

📝 สรุปคือ เมื่อเหล็กมีคุณภาพที่ดี และสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานกว่าเจ้าอื่นถึง 2 เท่า จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมชั้นวางสินค้า PN มีราคาสูงกว่าเจ้าอื่น

คุณภาพเหล็กที่นำมาใช้ผลิตชั้นวาง เหล็ก PN (เหล็กไทย) VS เหล็กทั่วไป (เหล็กจีน)

คุณภาพเหล็กที่ทำให้ราคาสูง

FAQ ประเด็นที่ 6. จุดเด่นของชั้นวางสินค้า PN

ถาม : นอกจากคุณภาพแล้ว มีอะไรอีกบ้างที่เป็นจุดเด่นของชั้นวางสินค้า PN?

ตอบ : เรื่องการออกแบบ ความครบครันพร้อมเปิดร้านให้ และสีที่เลือกได้

จุดเด่นของชั้นวางสินค้า PN

จุดเด่นของชั้นวางสินค้า PN

1. การออกแบบ เรามีการออกแบบดีไซน์รูปแบบชั้นวาง เพื่อให้เหมาะสมกับสินค้าประเภทนั้น ๆ โดยเฉพาะ ซึ่งชั้นวางสินค้าก็จะแตกต่างกันออกไปตามประเภทของร้านค้า เช่น 

  • ชั้นแขวนฮุก สำหรับวางสินค้าประเภทแขวน
  • ชั้นแกนโรล สำหรับโชว์สายไฟ
  • แร็คสำหรับโชว์ประตู/หน้าต่าง
  • ชั้นตะกร้าสำหรับวางข้อต่อ PVC
  • ชั้นโชว์โคมไฟ/หลอดไฟ
  • ชั้นโชว์กระเบื้อง และอื่น ๆ อีกมากมาย

ส่วนประเภทร้านค้าก็จะเป็นร้านวัสดุก่อสร้าง ร้านอุปกรณ์การเกษตร ร้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ร้านซุปเปอร์สโตร์(ร้านขายส่ง) และร้านค้าปลีกทั่วไป

2. ครบวงจร นอกจากชั้นวางที่ออกแบบมาให้ตรงกับสินค้าแล้ว เรายังมีเคาน์เตอร์คิดเงิน กระบะโปรโมชั่น รถเข็น และอุปกรณ์เสริมร้านค้าอื่น ๆ ไว้บริการลูกค้าที่เปิดร้าน/ขยายร้านอย่างครบวงจร

3. สีที่เลือกได้ ชั้นวางสินค้าและเคาน์เตอร์ของ PN มีหลายเฉดสี ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการ และยังออกแบบให้ใกล้เคียงกับสีแบรนด์ของลูกค้าได้

FAQ ประเด็นที่ 7. บริการของ PN

ถาม : บริการของ PN มีอะไรบ้าง?

ตอบ : เรามีหลากหลายฝ่ายที่ครอบคลุม พร้อมให้บริการลูกค้าตั้งแต่เริ่มไปจนถึงจบงาน

บริการของ PN

บริการของ PN

  • เรามีทีมงานแอดมินให้คำปรึกษา ในขั้นตอนของการเริ่มต้น
  • เรามีเซลล์ที่ออกแบบวางแปลนให้ลูกค้า และดูแลให้คำปรึกษาตั้งแต่เริ่ม ไปจนถึงจบงาน
  • เรามีฝ่ายแบบที่ออกแบบชั้นวางสินค้า และออกแบบแปลนร้านค้า 3D เพื่อให้ลูกค้าเห็นรายละเอียดเสมือนจริง
  • เรามีฝ่ายผลิตที่เชี่ยวชาญ สามารถผลิตชั้นวางสินค้าให้ตรงตามแบบได้
  • เรามีบริการขนส่ง/ติดตั้ง PN มีทีมงานขนส่งและติดตั้งชั้นวางสินค้าให้ถึงที่
  • เรามีบริการหลังการขาย หากลูกค้าต้องการขยายร้าน PN มีบริการรื้อ ย้าย เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และต้องไม่กระทบต่อการค้าขายทางหน้าร้านของลูกค้า
  • เรามีเครือบริษัท ที่เป็นโรงงานผลิตเหล็ก โรงงานพ่นสี โรงงานผลิตชิ้นส่วนชั้นวางและอุปกรณ์เสริมร้านค้า และมีไลน์ธุรกิจที่ครอบคลุมพร้อมตอบโจทย์ร้านค้าปลีก-ส่ง
  • เรามีดีลเลอร์ทั่วประเทศ ร้านเล็ก ร้านกลาง หรือร้านใหญ่ เราสามารถส่งต่อให้เซลล์หรือดีลเลอร์ที่ใกล้เคียงกับพื้นที่ของคุณลูกค้าได้

สรุป ⎯ ทำไมต้องชั้นวางสินค้า PN?

  • แบบชั้นวางสินค้าให้เลือก ชั้นวางสินค้า PN มี 4 แบบ ได้แก่ เชลฟ์, แร็ค, แร็คครอบเชลฟ์ และแร็คอินดิเกรท ซึ่งแต่ละแบบก็มีโครงสร้างและการรับน้ำหนักที่แตกต่างกันออกไป โดยลูกค้าสามารถเลือกสั่งผลิตตามความต้องการได้
  • คุณภาพของเชลฟ์ เชลฟ์มาตรฐานของ PN รับน้ำหนักได้ 25 – 50 กก./ชั้น สำหรับ 60 กก./ชั้นขึ้นไป เป็นงานสั่งผลิต มีแผ่นหลังให้เลือกได้แก่ หลังตาข่าย, หลังทึบ, หลังพันช์ชิ่ง และแผ่นไม้
  • คุณภาพของแร็คสต็อกสินค้าขนาดใหญ่ แร็คขนาดใหญ่ของ PN รับน้ำหนัก 1,000 – 10,000 กก.ต่อชั้น โดย PN จะใช้เสาพับที่มีต้นแบบมาจากเยอรมัน เป็นแบบ 2 ต้นเชื่อมติดกัน มีความแข็งแรง มาตรฐานปกติทั่วไป ไม่ต้องตรวจสอบการคลายของน็อต
  • แร็คครอบเชลฟ์ ตอบโจทย์การวาง+สต็อกสินค้า เป็นการนำแร็คและเชลฟ์มารวมอยู่ในโครงสร้างเดียวกัน ทำให้สามารถวางสินค้าและสต็อกสินค้าได้แบบสองต่อ โดยจะเลือกการรับน้ำหนัก ความสูง ความลึก แผ่นหลัง และแผ่นพื้น ตามความความต้องการของลูกค้าทั้งหมด
  • แร็คอินดิเกรท ทางเลือกที่แอดวานซ์กว่า มีความคล้ายกับแร็คครอบเชลฟ์ แต่ต่างจากแร็คครอบเชลฟ์ตรงที่สามารถกำหนดความลึก ด้านซ้ายและด้านขวาให้ไม่เท่ากันได้ ส่วนมากร้านที่เลือกใช้แร็คอินดิเกรท คือกลุ่มร้านสุขภัณฑ์ / ชุดโชว์ประตู / โชว์หน้าต่างบานเลื่อน หรือการวางของหนักในด้านเดียวที่เกิน 150 กก.ต่อชั้น
  • คุณภาพเหล็กที่ทำให้ราคาสูง ⎯ PN ใช้เหล็กไทย รหัส SS 400 ในการผลิต มาตรฐานที่ดีเยี่ยม อายุการใช้งาน 20 ปีขึ้นไป แจ้งการรับน้ำหนักเป็นค่าสูงสุดแบบเผื่อค่า safety 10% ซึ่งมีราคาสูงกว่าเหล็กจีน (ทั่วไป) กก.ละ 4 – 5 บาท
  • จุดเด่นที่เน้นความต้องการของลูกค้า
  • 1. การออกแบบ : เรามีการออกแบบดีไซน์รูปแบบชั้นวาง เพื่อให้เหมาะสมกับสินค้าประเภทนั้น ๆ โดยเฉพาะ
  • 2. ครบวงจร : นอกจากชั้นวางสินค้า เรายังมีอุปกรณ์เสริมร้านค้าอื่น ๆ ไว้บริการลูกค้าที่เปิดร้าน/ขยายร้านครบวงจร
  • 3. สีที่เลือกได้ : ชั้นวางสินค้าและเคาน์เตอร์ของ PN มีหลายเฉดสี ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการ
  • บริการเต็มรูปแบบ ⎯ ทีมแอดมิน ให้คำปรึกษา สอบถามในการเริ่มต้น / เซลล์ วางแปลน ดูแลตั้งแต่เริ่ม-จบงาน / ฝ่ายแบบ ดีไซน์ให้ตรงตามต้องการ / ฝ่ายผลิตชิ้นส่วนให้ได้คุณภาพ แข็งแรง มีมาตรฐาน ตรงตามแบบ / บริการขนส่ง-ติดตั้งถึงที่ และบริการหลังการขาย

เมื่อคุณผู้อ่านได้อ่านมาจนถึงตรงนี้แล้ว ผู้เขียนหวังว่าเครือ PN จะได้รับความไว้วางใจในการเลือกสั่งซื้อ/สั่งผลิตชั้นวางสินค้าจาก PN นะคะ

หากสนใจสอบถาม ขอคำปรึกษา ขอคำแนะนำต่าง ๆ หรือต้องการสั่งผลิตชั้นวางสินค้ากับเรา สามารถคลิกติดต่อเราเพื่อแอดไลน์ไปพูดคุยเบื้องต้นก่อนได้ หรือต้องการเยี่ยมชมเว็บไซต์เพิ่มเติม ก็สามารถคลิกที่ด้านล่างได้เลยค่ะ 😃